Hard Disk ที่ใช้ในปัจจุบันถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2499(ศ.ค. 1956) ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นโดยบริษัทไอบีเอ็มเรย์โนล์ด จอห์นสัน ในขณะนั้น Hard Disk มีขนาดค่อนข้างที่จะใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 20 นิ้ว มีความจุเพียงแค่ MB เท่านั้นซึ่งในตอนแรกใช้ชื่อเรียกว่า ฟิกส์ดิสก์ Fixed Disk หรือจานบันทึกที่ติดอยู่กับที่ แต่ในบริษัท IBM เรียกว่า วินเชสเตอร์ส (Winchestters)
พัฒนามาโดยบริษัท Westem Digital เป็น Hard Disk รุ่นเก่าที่มีความเร็วในการเขียนและในการอ่านค่อนข้างช้า และมีความจุน้อย แต่ก็มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
2. SCSI(Small Computer System Interface)
SCSI ซึ่งได้รับความนิยมสูงในการนำมาใช้งานกับ Server องค์กรในสมัยก่อนเนื่องด้วยมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงในสมัยนั้นและช่วยลดภาระในการทำงานของ CPU แต่เนื่องในปัจจุบัน SCSI นั้นถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลอื่น จนแทบจะไม่ค่อยที่จะพบเห็นในปัจจุบัน
3. SATA(Serial Advanced Technology Attachment)
Serial ATA หรือ SATA เป็นเทคโนโลยีที่ถูกเริ่มใช้งานในปี พ.ศ. 2545 จุดเด่นคือมีขนาดที่เล็ก ทั้งตัว Hard Disk และสาย SATA ทำให้มีต้นทุนที่ถูกลง ในขณะที่ตัว SATA มีการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วมากขึ้น จึงได้รับความนิยมอย่างมาก
SAS ทำหน้าที่ในการรับส่งข้อมูลผ่าน Protocol ในรูปแบบ Point to Point ระหว่าง Hard Disk และ Tape Drive โดยผ่านตัวควบคุม(Controller) แบบอนุกรม Serial Attached SCSI(SAS) ที่ถูกนำมาใช้ในการรับและการส่งข้อมูลแทนการส่งข้อมูลแบบขนาน(SCSI) แต่ยังคงใช้คำสั่งของ SCSI อยู่เนื่องจากได้ถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น
ขนาดและความจุของ Hard Disk
ความจุของ Hard Disk โดยทั่วไปในปัจจุบันมีตั้งแต่ 20GB จนไปถึง 3TB
ขนาด 8 นิ้ว (241.3 มิลลิเมตร x 117.5 มิลลิเมตร x 362 มิลลิเมตร)
ขนาด 5.25 นิ้ว(146.1 มิลลิเมตร x 41.4 มิลลิเมตร x 203 มิลลิเมตร)
ขนาด 3.5 นิ้ว(101.6 มิลลิเมตร x 25.4 มิลลิเมตร x 146 มิลลิเมตร) เป็นแบบ Hard Disk สำหรับ Table Computer หรือ Server ซึ่งมีความเร็วในการหมุนจานอยู่ที่ 10,000 7,200 หรือ 5,400 รอบ/นาที โดยมีความจุในปัจจุบันตั้งแต่ 80GB – 3TB
ขนาด 2.5 นิ้ว(69.85 มิลลิเมตร x 9.5-15 มิลลิเมตร x 100 มิลลิเมตร) เป็น Hard Disk สำหรับ คอมพิวเตอร์พกพา, Laptop, UMPC, Notebook, อุปกรณ์มิลเดียพกพา มีความเร็วในการหมุนจานอยู่ที่ 5,400 รอบ/นาที โดยมีความจุในปัจจุบันที่ 60GB – 1TB
ขนาด 1.8 นิ้ว(55 มิลลิเมตร x 8 มิลลิเมตร x 71 มิลลิเมตร)
ขนาด 1 นิ้ว(43 มิลลิเมตร x 5 มิลลิเมตร x 36.4 มิลลิเมตร)
ข้อดีของ Hard Disk
มีราคาถูกกว่า SSD
มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายกว่า SSD
ถ้า Hard Disk เสียหาย ก็สามารถกู้ข้อมูลได้(ราคาในการกู้แต่ละครั้งค่อนข้างสูง)
ข้อเสียของ Hard Disk
มีความเร็วในการเขียนและการอ่านข้อมูล ช้ากว่า SSD
มีเสียงรบกวนขณะ Hard Disk ทำงานอยู่ ในช่วงการทำงาน การอ่านข้อมูลและการเขียนข้อมูล
เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ซึ่งเหมือนกับ Hard Disk คำว่า SSD ย่อมาจาก Solid State Drive มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ Flash Drive โดยใช้หน่วยความจำแบบ Flash Memory Chips เปลี่ยนมาจากจานแม่เหล็กของ Hard Disk ทำให้มีความเร็วและเสถียรกว่า เนื่องจาก SSD ถูกสร้างมาเพื่อทดแทน Hard Disk จึงทำให้เร็วและทนทานต่อแรงกระแทกมากกว่า Hard Disk ที่ใช้จานหมุน ด้วยขนาดที่เล็กและไม่มีจานหมุนภายในทำให้กินไฟน้อย เมื่อนำไปลง Windows จำทำให้ใช้เวลาเปิดเครื่องน้อยลง ในปัจจุบัน SSD นั้นมีความจุตั้งแต่ 128GB ไปจนถึงหลัก TB
SSD มีทั้งหมด 3 ประเภท
1. SATA SSD
SSD ที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับ Port SATA โดยที่รูปร่างภายนอกของ SSD ชนิดนี้ก็จะมีขนาด 2.5 – 3.5 นิ้วเหมือนกับ Hard Disk เพราะ SSD ประเภทนี้ออกแบบให้ใส่เหมือนกับ Hard Disk โดย SATA SSD จะมีความเร็วในการอ่านเขียนอยู่ที่ประมาณ 600Mbps โดย SSD ประเภทนี้เป็นรุ่นที่ช้าที่สุดในหมู่ SSD
2. PCle SSD
SSD ประเภทนี้จะใช้การเชื่อมต่อผ่าน Port PCle หรือที่เรียกว่า Port เสียบการ์ดจอซึ่ง PCle SSD ส่วนใหญ่จะขนาดใหญ่มากพอๆ กับการ์ดจอรุ่นเล็กๆ ทำให้ PCle SSD ไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัด
SATA M.2 SSD ใช้ Interface SSD ที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 6Gbps ซึ่งช้ากว่าเมื่อเทียบกับ Interface รุ่นใหม่ๆ SATA SSD เป็น SSD ที่มีประสิทธิภาพระดับพื้นฐานและใช้ Interface เดียวกันกับ Hard Disk ทั่วไปแต่ก็ยังมี SATASSD ที่สูงกว่า Hard Disk แบบจานหมุนถึง 4 เท่า SATA SSD หาซื้อได้ง่ายและราคาประหยัดกว่า NVMe SSD SATA M.2 SSD